LED คืออะไรและวิธีเลือกซื้อ
LED คือ ไดโอดเปล่งแสง ย่อมาจากคำว่า (light-emitting diode) ซึ่งสามารถเปล่งแสงออกมาได้แสงที่เปล่งออกมาประกอบด้วยคลื่นความถี่เดียวและเฟสต่อเนื่องกัน ซึ่งต่างกับแสงธรรมดาที่ตาคนมองเห็น
โดยหลอด LED สามารถเปล่งแสงได้เมื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และประสิทธิภาพในการให้แสงสว่างก็ยังดีกว่าหลอดไฟขนาดทั่วๆ ไป
ข้อดีของแอลอีดี
ประสิทธิภาพในการให้แสงสว่างดีกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่วๆไป.
ตัวหลอด LED เองเมื่อทำให้เกิดแสงขึ้นจะกินกระแสน้อยมากประมาณ 1-20mA
มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประมาณ 50,000 – 100,000 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแอลอีดี วงจรขับกระแส สภาพภูมิอากาศ ความชื้น และอุณหภูมิ ซึ่งก็มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดที่ให้แสงสว่างชนิดอื่นๆมาก
ไม่มีรังสีอินฟาเรต รังสีอัลตราไวโอเรต ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนัง
ทนทานต่อสภาวะอากาศ
ทนทานต่อการสั่นสะเทือน และการเปิดปิดที่บ่อยครั้ง
มีหลากหลายสีให้เลือกใช้
วิธีเลือกซื้อLED
ควรพิจารณาว่า หลอดที่ซื้อนำไปติดตั้งแทนของเดิม (REPLACE) หรือ ติดตั้งใหม่ ถ้าแทนที่ของเดิมขั้วหลอดต้องเหมือนกัน เช่น ขั้วE27,G13
ต้องสังเกตุว่าหลอดแต่ละยี่ห้อมีข้อควรระวังและข้อห้ามอะไรบ้าง เช่น หลอด LED TUBE T8 ต้องเอาบัลลาตและสตาร์เตอร์ออกเสมอ
ค่ากำลัง WATT ของหลอดควรไม่เกิน เศษ 1 ส่วน 3 ของค่ากำลัง WATT ของหลอดแบบเดิม (หลอดตะเกียบ,หลอดฟลูออเรสเซนต์)
ค่าประสิทธิภาพเชิงปริมาณของแสงที่หลอดทำได้ไม่ควรต่ำกว่า 70lm/w
ถ้านำไปติดตั้งภายนอกหรือกลางแจ้งจะต้องใช้หลอดที่กำหนดค่า IP ไม่ต่ำกว่า IP 65
มาตรฐานที่บริษัทหรือสินค้าได้รับ เช่น มอก, CE, ISO, EMC , LVD , ROHS
เงื่อนไขการรับประกันของสินค้า
ช่องทางการติดต่อสอบถามหรือการรับบริการจากผู้จัดจำหน่าย
ค่าIPคืออะไร ใครสงสัยอ่านต่อได้ที่นี้จ้า